Translate

วันเสาร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ความรู้กับการค้าขาย



     ในสมัยก่อน จีน นั้น ยังไม่มีการสนับการศึกษาให้กับบุตรหลานเท่าใดนัก  มีร้านขายสมุนไพรอยุ่สองร้านใกล้ๆกัน   ซึ่งทั้งสองร้านนั้น มีลูกสาว และ ลูกชาย อย่างละคู่ ทั้งสองร้าน  แต่แตกต่างกันตรงที่ ร้านแรกนั้น ได้ให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยส่งทั้งลูกชายและลูกสาว ไปร่ำเรียนวิชาในสำนักต่างๆ เพื่อจะได้มีวิชาความรู้ติดตัว  แต่อีกร้าน ต่างจากร้านแกร ตรงที่เก็บลูกชายและลูกสาวอยู่บ้าน ช่วยกันทำมาค้าขายเพียงอย่างเดียว

    จนกระทั่งวันหนึ่ง  เถ้าแก่ร้านยาทั้งสองร้านได้มีโอกาสมาเจอกันที่ โรงน้ำชาแห่งหนึ่งในเมือง จึงได้เอ่ยพูดจาปราศรัย ถึงลูกๆของตัวเอง

    "ท่านชุน  ข้าเห็นท่านส่งบุตรสาว บุตรขายของท่านออกไปร่ำเรียนนอกบ้านเช่นนั้นรึ"  เถ้าแก่ลี่ เถ้าแก่ร้านที่สองกล่าว

    "เป็นเช่นนั้นท่านลี่  ข้าอยากให้บุตรสาวบุตรชายของข้า มีวิชาความรู้ติดตัว"

    "เอ ข้าว่าเสียเวลาเปล่านา ท่านชุน  จะเรียนไปใยเล่า เรียนไปก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร  ดูสิ บุตรชาย บุตรสาวของข้า ช่วยงานร้านสมุนไพรข้า อย่างขยันขันแข็ง ข้าก็สบาย ไม่ต้องมาเหนื่อยตรำงานเช่นท่าน คุมการเงินอย่างเดียว สบายใจ ฮะๆๆฮ่า" พ่อค้าลี่กล่าวพลางหัวเราะจิบน้ำชา

   เถ้าแก่ชุน ได้ฟังคำกล่าวเช่นนั้นจาก เถ้าแก่ลี่ ก็ได้แต่นั่งอมยิ้ม มิได้กล่าวข้อความใดๆ โต้กลับไปอีกเลย



  
   วันเวลาผ่านล่วงเลยไป  บุตรสาวบุตรชายของเถ้าแก่ชุน ก็ได้สำเร็จการศึกษา  บุตรชายของเถ้าแก่ชุนนั้น มีโอกาสมากกว่า จึงได้สอบเป็นขุนนางในราชสำนัก  แม้ว่าจะไม่ได้เป็นขุนนางใหญ่โต แต่ก็เป็นที่เชิดหน้าชูตาของวงศ์ตระกูลได้เป็นอย่างดี  ซึ่ง บุตรชายของเถ้าแก่ชุน ก็สามารถก้าวหน้า ขึ้นตามลำดับในเวลาต่อมา

   ส่วนบุตรสาวนั้นได้นำวิชาความรู้ต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมา  นำมาปรับใช้ในการค้าขายทำให้กิจการสมุนไพรของร้านนั้น เจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้ ยังมีเส้นสาย จากคนที่ไปเรียนด้วยกัน ทำให้มีเส้นสาย และ มุมมองที่กว้างมากขึ้น นอกจากจะขายสมุนไพรในเมืองนั้นแล้ว ยังสามารถ ส่งสมุนไพรไปขายยังต่างเมือง รวมถึงการจัดสมุนไพร ส่งให้กับราชสำนัก และขุนนางน้อยใหญ่ได้อีกเป็นอย่างดีด้วย

   ด้วยเหตุนี้ ร้านสมุนไพร ของเถ้าแก่ชุน จึงมีกิจการใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ  ส่วนกิจการของเถ้าแก่ลี่นั้น ก็ดำเนินไปได้เรื่อยๆ ส่วนบุตรสาว บุตรชายนั้น ก็ทำงานตามที่เถ้าแก่ลี่สอน มีกินมีใช้ไปวันๆ แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยมากขึ้น หรือมีเงินทองมากมายอะไร  และบางครั้ง คราวคับขันที่ต้องอยู่ในช่วงสงคราม ข้าวยากหมากแพง  กิจการก็ถึงกับซบเซา ต้องมาขอหยิบยืมเงินจากเถ้าแก่ชุนก็ยังมี

     เถ้าแก่ลี่ กล่าว " ถ้าข้ารู้อย่างนี้ ข้ายอมลำบาก ส่งลูกข้าไปเรียนหนังสือเหมือนท่าน ข้าจะได้ไม่ต้องมากลุ้มใจตอนแก่ เสียอย่างนี้" 


สุภาษิตสอนใจ

   "เลี้ยงลูกชายโดยไม่ให้การศึกษา ก็เหมือนเลี้ยงลา เลี้ยงลูกสาวโดยไม่ให้การศึกษา ก็เหมือนการเลี้ยงหมู"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น